. . . . . .ย้า........ฮู้ !!!!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า หายไปนาน แต่ก็ไม่ได้หายไปเลย ยังอยู่ๆ ฮี่ ฮี่ ผ่านมาหลายเดือนกับเรื่องแบดมินตัน ก็ก้าวหน้าไปอีกขั้น เพราะได้รับการฝึกอบรมแบดมินตันจากอาจารย์ อนันต์ เป็นเวลา 3 วัน แค่สามวันก็จะกรอบแล้ว นี่ถ้าอยู่เป็นอาทิตย์ ตายคาคอร์ดแหง T_T ต้องตื่นแต่เช้า 6.00 น. มาวิ่งรอบสนาม 5 รอบ ก็ประมาณ 2 กิโล 400x5 = 2,000 Kg หรือใครจะเถียง ??? วิ่งระยะสั้น 50 และ 100 เมตร จับเวลา ผมได้อันดับดีที่สุด เหอ เหอ จากนั้นก็วอร์มร่างกายให้เหงื่อตกยิ่งกว่าไปรนน้ำมันพรายซะอีก แบบหยดติ๋งๆเลย เป็นเวลา 10 นาที แค่อุ่นเครื่องก็พากันร้องโอดโอย อุ๊ยตาย ว้าย กรี้ด กะตู้ฮู้......นี่ยังไม่ได้ลงสนามนะ จากนั้นก็ไปพัก วันแรกทำเป็นวางมาดไปก่อน กินน้อยๆ ไม่พัก มาถึงก็คึกแบกไม้แบดลงตีต่อเลย โอ้ว สู้ๆๆๆ พอวันที่สอง กินเป็นกิน มีเวลาว่างก็นอน............ตลอด พักๆๆๆ โว้ย !! โครตเหนื่อยเลย ปวดไปหมดทั้งร่างกาย ตั้งแต่คอบนถึงคอล่าง ??? ฮี่ ฮี่ วันแรกแทบจะลุกไม่ขึ้น แบบปวดไปหมดทั้งร่างกาย แน่นเปรี๊ย ฟิตปึ๋งปั๋ง โอ้ว !! วันที่สองกว่าจะลุกได้ต้องค่อยๆ ยกชิ้นส่วนร่างกายออกจากที่นอน มาฝึกแต่เช้า ผมฝึกตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 22.00 น. เป็นเวลา 2 วันส่วนวันสุดท้ายก็เลิกเร็วหน่อย 16.00 น. บีคอส อาจารย์แกจะกลับเครื่องบินเที่ยวสุดท้าย ไม่งั้นแกได้เกาะปีกเครื่องบิน กลับแหงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ยังมีขำกว่านั้น กว่าผมจะรู้ชื่ออาจารย์ ผมก็ถามแกตอนกลับนั่นละ เพราะเรียกแต่อาจารย์ๆๆ ในที่สุดแกก็ชื่อ อ. อนันต์ ส่วนนามสกุลนั้นไม่ได้ถามรู้แต่แกสอนที่คอร์ดสมพงษ์ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินธ์.....โอย อยากรู้ก็ไปฟังเพลงอัศนีและวสันต์เอาละกัน คนตั้งก็แหม........ตั้งซะบันทึกกินเนสบุ้คได้เลยว่าเป็นฃื่อเมืองที่ยาวที่สุดในโลก ฮ่า ฮ่า ฮ่า หลังจากได้วิชาพื้นฐานการเล่นแบดมินตันแล้ว ก็มาฝึกๆๆ จนได้มา 1 ขั้น จาก 9 ขั้น นี่ถ้าผมฝึกถึงขั้นที่เก้า สงสัยหลับตาตีก็ชนะแหงๆ ฮ่า ฮ่า จากนั้นมา ผมจะอุ่นเครื่องจนเหงื่อออก ประเภทเหงื่อไม่ออกไม่ลงสนาม เพราะถ้าเราอุ่นพร้อมแล้วก็จะเล่นได้มีประสิทธิภาพกว่า ป้องกันการบาดเจ็บกล้ามเนื้อได้ด้วยนะตัวเอง ข้อมือ ข้อเท้า ข้อสอบ (เกี่ยวอะไร) สำคัญๆ คอก็สำคัญ บริหารบ่อยๆ บริหารมากก็ปาดจะปวดข้อมือได้ เหอ เหอ เอว หัวเข่า หัวไหล่ หัวเราะ ต้องอุ่นเครื่องไว้ เหงื่อไม่ออกก็อย่าพึ่งลง แสดงว่าเรายังไม่อุ่นพอ ไม่ต้องถึงกะเอาน้ำร้อนลวกหรอก มันจะไม่อุ่นกลายเป็นสุกนะสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เพราะฉนั้นร่างกายต้องเตรียมพร้อมสู้ศึกที่อยู่ข้างหน้า เย้.........!! ทิ้งช่วงการฝึกได้ไม่นาน ก็เข้าตากรรมการเข้า จู่ๆ โค้ชจังหวัดเกิดเดอะอยากปั้นศิษย์รุ่นสุดท้าย ผมก็ร่วมแจมนะสิ ว้าว !! เจ๋งไปเลย ตอนนี้ฝึกมาได้ 3 อาทิตย์กว่าๆ ฟิตๆๆ สโตรกออกเรื่อยเลย สงสัยสนามจะสั้นไป ฝึกตัดหยอด ตีลูกไปข้างหลัง ทำตลอด อืม........ ไอ้ผมชั่วโมงการตีลูกยังน้อย เลยใช้วิธีลัด แบบว่า ทุกๆวันในการอุ่นร่างกายผมจะสโตรกลม วันละ 100 ครั้ง จะได้ครบทันพวกที่ตีแบดมาเป็นปีๆ ฮ่า ฮ่า และทำให้เราเกิดความเคยชินในการสโตรกลูก ว่าจะต้องออกไม้ยังงัย ถึงจะไม่ใช้ไหล่ ผมเคยเหวี่ยงไม้ส่งเดช ผลคือวันนั้นไหล่มันด่าเอา แงงงงง T_T ทำผิดท่า หัวไหล่มันก็กะตุกนะสิ เจ็บๆๆ ต่อไปไม่ทำอีกแย้ว การสโตรกลมมีประโยชน์มาก เป็นการอุ่นเครื่องอย่างหนึ่ง เพราะกว่าจะครบร้อยเหงื่อก็ซึมแทบ จะเปียกเลยละ ช่วงแรกๆจะรู้สึกแข็งๆ พอทำไปเรื่อยๆมันก็จะอ่อนตัวเอง น้ำก็จะซึมออกม.....เหอ เหอา ก๊ากกกกก เหงื่อเฟ้ย !! รู้นะคิดอะไรอยู่ และพอเราเข้าสนามเราก็พร้อมทีจะตีกัน เอ๊ยตีแบดได้สบาย นอกจากการซ้อมแล้วผมยังศึกษาจากวิดีโอ ก็มีหลายเรื่องโดยเฉพาะ คู่กำ หลายคนคงจะได้ดูกันแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ม่ายช่ายๆ วีดีโอการฝึกของโค้ชเกาหลีและ โค้ชไทย ลองเปรียบเทียบดูแล้ว อืม...นะ ดีกันคนละแบบ โค้ชเกาหลี จะสอนสไตล์ตัวเอง แต่โค้ชไทยจะสอนตามตำรา ทำให้โค้ชเกาหลีดูมันส์กว่า แต่โค้ชไทยก็ดีนะ เข้าใจง่ายแต่อาจจะไม่จูงใจเท่าโค้ชเกาหลี แต่ก็ดีมีการส่งเสริมกัน เย้ !! ไว้ผมได้แชมป์แบดมินตันระดับโลก จะมาเป็นโค้ชบ้าง ฮี่ ฮี่ :D